Nerf Longstrike CS-6

Nerf Longstrike CS-6

        หลังจากที่ผมได้อธิบายเรื่องปืน Recon CS-6 ไป ปืนรุ่นต่อมาที่จะอธิบายคือรุ่น Longstrike CS-6 ปืนรุ่นนี้มีหน้าตาเป็นปืนแบบ Sniper มีลำกล้องยาวๆ ปืนที่ผมซื้อมานั้นเป็นสีน้ำเงิน เหลือง ส้มแต่ก็มีอีกหลายสีอย่างเช่นสีเขียวใสและสีขาว ปืน Longstrike CS-6 เป็นปืนที่ยาวเกือบที่สุดกระบอกหนึ่ง ด้วยความยาวประมาณ 1 เมตรหรือมากกว่านิดหน่อย


ข้อมูลรวมๆ ของ Longstrike CS-6 คือ ปืนกระบอกนี้เป็นประเภท Bolt action หรือพูดง่ายๆ คือเป็นปืนชักด้วยที่ชักด้านข้างซึ่งยื่นออกมาทั้ง 2 ข้าง ปืนรุ่นนี้ถูกปล่อยออกมาปี 2008 สี original ของปืนนี้คือสีน้ำเงิน เหลือง และส้ม ต่อมาก็มีสีอื่นๆ ตามออกมา อีก 2 แบบ




สิ่งที่จะมาในกล่องจะมี 7 อย่าง ชิ้นแรกคือตัวปืน Longstrike CS-6 ซึ่งจะมาในสภาพสั้นๆ ไม่มีพานท้ายปืนหรือลำกล้องต่อมาด้วย ที่ข้างปืนก็จะไม่มีทีชักติดมาด้วย เราต้องประกอบเอง บนตัวปืนจะมีรางใส่อุปกรณ์ต่างๆ อยู่ 2 ราง ซึ่งทั้ง 2 อยู่บริเวณด้านบนของตัวปืน ด้านหน้าของตัวปืนสามารถต่อลำกล้องให้ยาวขึ้นไปอีกได้ ส่วนบริเวณด้านท้ายของปืนสามารถต่อพานท้ายปืนที่มาพร้อมกันเข้าไปได้ (เมื่อต่อเข้าไปแล้วจะไม่สามารถถอดออกได้ ยกเว้นจะโมดิฟายแบบถาวรซึ่งจะทำให้ถอดได้)




(ภาพนี้ต่อพานท้ายปืนแล้ว)

ชิ้นที่ 2 คือพานท้ายปืน พานท้ายปืนที่มาพร้อมกับปืนกระบอกนี้ ผมชอบมากเพราะมันมั่นคงมาก ไม่สามารถงอได้ และมีที่เก็บแม็กกาซีนอยู่ด้านหลัง 2 อัน (เก็บได้แต่แม็กกาซีน 6 นัดเท่านั้น) แต่ก็มีข้อเสียคือเมื่อต่อเข้าไปกับตัวปืนแล้วจะไม่สามารถถอดออกมาได้อีก และพานท้ายปืนอันนี้สามารถใช้ได้กับปืน Longstrike CS-6 เท่านั้น




ชิ้นที่ 3 คือ ลำกล้อง ลำกล้องของปืนรุ่นนี้ถือว่ายาวมาก อาจจะเป็นลำกล้องซึ่งถอดได้ที่ยาวที่สุดก็ว่าได้ บนลำกล้องมีรางที่ใส่อุปกรณ์อยู่ 2 ราง อยู่บริเวณด้านบนและด้านล่างอย่างละอัน บริเวณที่ปลายปืนมีที่ช่วยเล็งซึ่งสามารถพับขึ้นและลงได้ ลำกล้องของปืนเนิร์ฟจะไม่ช่วยให้ปืนยิงแรงขึ้นหรือไกลขึ้น แต่สามารถทำให้ยิงใกล้ขึ้นและเบาลงได้เพราะอาจเกิดการเสียดสีระหว่างกระสุนและลำกล้อง 




ชิ้นที่ 4 คือศูนย์เล็ง ศูนย์เล็งอันนี้ผมไม่ชอบเพราะมันช่วยเล็งไม่ค่อยได้ บนศูนย์เล็งจะมีที่เล็งซึ่งสามารถพับขึ้นและลงได้อยู่ 2 ชิ้น อันแรกเป็นชิ้นกลมๆ มีรูอยู่ตรงกลาง ถ้าพับลงไปจะมี 2 ขีดที่ตั้งขึ้นมา แทนที่ที่เล็งแบบกลมๆ ชิ้นที่ 2 เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าและมีขีดอยู่ตรงกลาง เมื่อพับลงไปจะเป็นรูวงกลมเล็กๆ (ศูนย์เล็งอันนี้มีไว้เพื่อความเท่อย่างเดียว)





ชิ้นที่ 5 คือที่ชัก ที่ชักจะแยกมาเป็น 2 ชิ้น ชิ้นหนึ่งจะมีแกนเหล็กติดอยู่ส่วนอีกชิ้นจะไม่มีแกนเหล็ก เมื่อติดทั้ง 2 ชิ้นนี้เข้าด้วยกันจะถอดออกจากกันยากมาก ชิ้นที่มีแกนเหล็กต้องเสียบเข้าไปที่บริเวณช่องว่างบนตัวปืน (ต้องสังเกตดีๆ ว่าเสียบแกนเหล็กเข้าไปในรูเล็กๆ ด้วย) เมื่อแกนเหล็กทะลุมาอีกฝั่งก็ประกบอีกชิ้นแล้วกดให้ติดกัน



ชิ้นที่ 6 คือแม็กกาซีน 6 นัด แม็กกาซีนแบบนี้ก็เหมือนกับที่มากับปืน Recon CS-6 สามารถใส่กระสุน Streamline และกระสุน Elite ได้




ชิ้นที่ 7 คือกระสุน Streamline 6 กระสุน กระสุน Streamline เป็นสีส้มอ่อนที่ตัวกระสุน แต่ส่วนหัวกระสุนเป็นสีส้มเข้ม กระสุน Streamline จะมาพร้อมกับปืนเก่าๆ แต่ปืนใหม่จะมีกระสุน Elite มาแทนซึ่งดีกว่า





ในความคิดของผมคือปืนยิงได้ไม่ไกลและเบา ถึงจะมีปืนใหม่มาแทนที่ความสามารถก็เหมือนเดิมคือยิงเบาพอๆ กัน แถมราคาแพงกว่าอันเก่า (บางที่ก็ราคาเท่ากันหรือถูกกว่า) ส่วนที่ผมชอบของปืนนี้คือพานท้ายปืนมั่นคงและเก็บแม็กกาซีนได้





ระยะยิงของปืนนี้อยู่ที่ประมาณต่ำกว่า 10 เมตรในแบบขนานพื้น และประมาณ 15 เมตรหรือต่ำกว่าในแบบ 45 องศา ซึ่งถือว่ายิงเบามากเมื่อเทียบกับปืนทุกรุ่น ปืนรุ่นนี้ได้ออกอันใหม่มาอีกหลายครั้ง (หน้าตาคล้ายๆ กัน เปลี่ยนสีนิดหน่อย) แต่ก็ยิงเบาเหมือนเดิม



วิธีใช้ปืนนี้คือชักที่จับมาด้านหลัง แล้วใส่แม็กกาซีนเข้าไป (แม็กกาซีนจะดึงออกหรือใส่เข้าไปได้เฉพาะเวลาที่จับถูกชักมาด้านหลังแล้วเท่านั้น) ดันที่จับกลับไป แล้วเหนี่ยวไกเพื่อยิง ด้านท้ายของปืนจะมีรูเพื่อดูว่าชักแล้วหรือยัง ถ้ามีสีส้มแปลว่าพร้อมยิงแล้ว แต่ถ้ายังไม่มีสีส้มแปลว่ายังยิงไม่ได้



ข้อดีของปืนนี้คือมีพ้านท้ายปืนที่มั่นคงและสามารถเก็บแม็กกาซีนได้ ส่วนข้อเสียคือยิงเบามากๆ 

สรุปคือปืนนี้ไม่ควรซื้ออย่างยิ่งเพราะยิงช้าและเบา นอกจากนั้นปืนตระกูล Longstrike และ Longshot ไม่ควรซื้อเลย เพราะต่างกันแค่หน้าตานิดๆ หน่อยๆ 











ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม